ตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. มีแนวคิดในการปรับปรุงหลักเกณฑ์การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ของกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็น Investment Token, Utility Token, คริปโทฯ เช่น Bitcoin และ Stablecoin
ตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. มีแนวคิดในการปรับปรุงหลักเกณฑ์การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ของกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็น Investment Token, Utility Token, คริปโทฯ เช่น Bitcoin และ Stablecoin
เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันในการแข่งขันระหว่างประเภทธุรกิจ และเพื่อประโยชน์ด้านการจัดสรรสินทรัพย์ ของผู้ลงทุนผ่านผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการลงทุนให้แก่ บลจ.
โดย ก.ล.ต. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นหลักการ และร่างประกาศเมื่อเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน 2567
ก.ล.ต. จึงออกประกาศ เพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 13 ฉบับ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1) เพิ่มให้ Investment token เป็นทรัพย์สินที่กองทุนสามารถลงทุนได้ โดยมีอัตราส่วนการลงทุนเช่นเดียวกับหลักทรัพย์ (Transferable Securities) เช่น หุ้น และหุ้นกู้ เนื่องจากมีลักษณะและความเสี่ยงคล้ายกัน
2) เพิ่มความยืดหยุ่นให้กองทุนสามารถลงทุนใน Crypto Asset ได้ ภายใต้ระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมกับประเภทผู้ลงทุน
-กองทุนสำหรับผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ
สามารถลงทุนใน Crypto ETF ได้โดยไม่จำกัดสัดส่วนการลงทุน
รวมทั้งสามารถลงทุนโดยตรงใน Crypto Asset โดยจำกัดสัดส่วนการลงทุนไม่เกิน 20% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV)
-กองทุนสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย
ที่จัดตั้งขึ้นใหม่และมีกลยุทธ์ Active management ประเภทกองทุนรวมผสม กองทุนรวมตราสารทุน หรือกองทุนรวมทรัพย์สินทางเลือก
สามารถมีเงินลงทุนใน Crypto Asset รวมทั้งหมด ผ่าน ETF หรือกองทุนรวมต่างประเทศ ไม่เกิน 5% ของ NAV
3) ปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับการจัดตั้งและจัดการสำหรับกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น การเก็บรักษาทรัพย์สิน การเปิดเผยข้อมูล การโฆษณา และการปรับปรุงแบบประเมินความเหมาะสมในการลงทุน (Suitability Test) ให้ครอบคลุมการลงทุนใน Crypto Asset เป็นต้น
ซึ่งประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าว มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2568 สำหรับกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ตามหลักเกณฑ์ก่อนวันที่ประกาศใหม่มีผลใช้บังคับ ให้ปฏิบัติตามประกาศใหม่ภายใน 90 วัน
ที่มา : https://www.sec.or.th/TH/Pages/News_Detail.aspx?SECID=11500&fbclid=IwY2xjawH1mWFleHRuA2FlbQIxMAABHS2rQdbe6ZX5wjp4tjDGw9kIq9jAeAJOQzEEwUdxe0w-ViJIqImeymNS9w_aem_8ZviL7A4AIfBmw6RCZwwng
เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันในการแข่งขันระหว่างประเภทธุรกิจ และเพื่อประโยชน์ด้านการจัดสรรสินทรัพย์ ของผู้ลงทุนผ่านผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการลงทุนให้แก่ บลจ.
โดย ก.ล.ต. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นหลักการ และร่างประกาศเมื่อเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน 2567
ก.ล.ต. จึงออกประกาศ เพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 13 ฉบับ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1) เพิ่มให้ Investment token เป็นทรัพย์สินที่กองทุนสามารถลงทุนได้ โดยมีอัตราส่วนการลงทุนเช่นเดียวกับหลักทรัพย์ (Transferable Securities) เช่น หุ้น และหุ้นกู้ เนื่องจากมีลักษณะและความเสี่ยงคล้ายกัน
2) เพิ่มความยืดหยุ่นให้กองทุนสามารถลงทุนใน Crypto Asset ได้ ภายใต้ระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมกับประเภทผู้ลงทุน
-กองทุนสำหรับผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ
สามารถลงทุนใน Crypto ETF ได้โดยไม่จำกัดสัดส่วนการลงทุน
รวมทั้งสามารถลงทุนโดยตรงใน Crypto Asset โดยจำกัดสัดส่วนการลงทุนไม่เกิน 20% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV)
-กองทุนสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย
ที่จัดตั้งขึ้นใหม่และมีกลยุทธ์ Active management ประเภทกองทุนรวมผสม กองทุนรวมตราสารทุน หรือกองทุนรวมทรัพย์สินทางเลือก
สามารถมีเงินลงทุนใน Crypto Asset รวมทั้งหมด ผ่าน ETF หรือกองทุนรวมต่างประเทศ ไม่เกิน 5% ของ NAV
3) ปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับการจัดตั้งและจัดการสำหรับกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น การเก็บรักษาทรัพย์สิน การเปิดเผยข้อมูล การโฆษณา และการปรับปรุงแบบประเมินความเหมาะสมในการลงทุน (Suitability Test) ให้ครอบคลุมการลงทุนใน Crypto Asset เป็นต้น
ซึ่งประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าว มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2568 สำหรับกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ตามหลักเกณฑ์ก่อนวันที่ประกาศใหม่มีผลใช้บังคับ ให้ปฏิบัติตามประกาศใหม่ภายใน 90 วัน
ที่มา : https://www.sec.or.th/TH/Pages/News_Detail.aspx?SECID=11500&fbclid=IwY2xjawH1mWFleHRuA2FlbQIxMAABHS2rQdbe6ZX5wjp4tjDGw9kIq9jAeAJOQzEEwUdxe0w-ViJIqImeymNS9w_aem_8ZviL7A4AIfBmw6RCZwwng
2025-01-16 20:20:03